โคมไฟสไตล์ญี่ปุ่น : กระดาษสา
วันนี้เรามีโครมไฟญี่ปุ่นมาให้เพื่อนลองทำกันดูนะค่ะ ทำกันไม่อยากค่ะ
ลองทำกันเลยนะค่ะ
วิธีทำ โคมไฟสไตล์ญี่ปุ่น : กระดาษสา
วัสดุอุปกรณ์ l วิธีทำโคมไฟสไตล์ญี่ปุ่น : กระดาษสา
1.เศษไม้ไผ่หรือไม้เสียบลูกชิ้น (ไม้เสียบลูกชิ้นมีขายตาม supermarket ทั่วไป ถูกมาก)
2.กระดาษสาสีขาว
3.ไม้บรรทัด ดินสอ ยางลบ กระดาษ A4 คืออุปกรณ์ที่จะเป็นต่อการร่างแบบ
4.คัตเตอร์หรือมีด ใช้เพื่อตัดไม้ให้ได้ขนาด
5.ปืนกาว พร้อมกาว มีขายทั่วไปตามร้านเครื่องเขียน
6.ขั้วหลอดไฟ มีขายตามร้าน อุปกรณ์ก่อสร้างทั่วไป
7.ปลั๊กไฟพร้อมสวิตซ์ (อันนี้ผมซื้อที่โฮมโปร)
8.หลอดตะเกียบสี Warmlight จำนวน watt ให้เลือกจากความพอใจของเราถ้าไม่ชอบส่วงมากก็เลือก watt น้อยๆ แนะนำให้ทางร้านลองหลอดไฟให้ดูจะได้เลือกถูก
9.แผ่นไม้ หรือกระดาษลูกฟูกอย่างหนา เราจะนำมาใช้เป็นฐานโคมไฟนั้นเองครับ
10.เลือยฉลุ ในกรณีที่เราใช้แผ่นไม้เป็นฐานเราก็ใช้เลื่อยฉลุ
ขั้นตอนการทำ l วิธีทำโคมไฟสไตล์ญี่ปุ่น : กระดาษสา
1. เขียนแบบที่ต้องการก่อน ขั้นตอนนี้ต้องใช้จินตนาการส่วนบุคคลหรือจะลอกแบบผมไปก็ได้น่ะครับ(แต่ไม่บอก Dimension ให้ คิดเอาเองน่ะจ๊ะ) มีข้อแนะนำนินึงว่าควรออกแบบให้โคมไปนี้มีความยาวด้านสูงมากกว่าด้านฐานน่ะครับ โคมไปจะได้ไม่ดูป๋อมๆ เอ้ย ป้อมๆ เตี้ยๆ ไม่สวยงาม
5.ทำส่วนกรอบไม้นี่ซ้ำอีก 3 ชุดน่ะครับจะได้ครบด้านข้าง
6.เราจะมาตัดแผ่นไม้เป็นฐานกันน่ะครับ เราก็ใช้เลื่อยฉลุดังภาพ ทำการตัดไม้ให้เป็นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสน่ะ
ครับ คือแต่ล่ะด้านเท่ากับความยาวฐานของกรอบไม้ด้านข้าง ที่เราทำไปเมือขั้นตอนที่ผ่านๆมา
และทำการติดฐานโคมไฟลงไปขันสกรูยึด (ขอโทษทีครับขั้นตอนนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้)
นี่ครับคือหน้าตาของเลื่อยฉลุ
7.ทำส่วนของฝาปิดด้านบน อันนี้เราก็มาวาดแบบกัน แล้วก็ทำการติดไม้ติดกระดาษเหมือนขั้นตอนที่ผ่านมา
ในการตัดไม้เสียบลูกชิ้นใช้คืมตัดเร็วกว่าเยอะเลย
ส่วนฝาด้านบน
8.ทำการประกอบกรอบด้านข้าง ขั้นตอนนี้ถ้ามีคนช่วยจับจะดีมาก ใช้ปืนกาวฉีดลงไปบริเวณรอยต่อของด้านในทั้งสี่ด้าน เกือบลืมบอกไป เราจะให้ส่วนที่เป็นไม้อยู่ด้านนอกน่ะครับ และก็ฉีดกาวยึดกรอบไม้กับฐานทุกด้านด้วย
9.ขั้นตอนสุดท้ายไม่มีอะไรมาก เราก็ใส่หลอดไฟลงไป และก็ทำการวางฝาด้านบนปิดแหมะลงไป ไม่ต้องฉีดกาวน่ะครับเดี๋ยวเราจะเปลี่ยนหลอดไฟไม่ได้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เพื่อนๆอย่าลืมไปลองทำกันดูนะค่ะ ทำกันง่ายๆไม่อยากใช่ไหมค่ะเพื่อนๆ
แหล่งที่มา http://www.learners.in.th
วันที่ 14 กุมภาพันธ 2556